[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]
วิตามินรวม ช่วยอะไร? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเจ้าสารต่าง ๆ ที่เราคุ้นหูกันดีเหล่านี้ดีต่อสุขภาพอย่างไรกันแน่ เนื่องจากเรามักได้ยินเกี่ยวกับวิตามินต่าง ๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของวิตามินต่าง ๆ ที่มักมาจากผัก-ผลไม้ รวมถึงคุณประโยชน์ของมันที่มีดีต่อร่างกาย ชนิดที่ว่าเราขาดมันไม่ได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีประโยชน์ก็ต้องมีข้อเสียตามมา ซึ่งแน่นอนว่าหากรับประทานผิดวิธี ก็จะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างแน่นอน ดังนั้น วิตามินรวมคืออะไร เหมาะกับใคร และต้องกินแบบไหนจึงจะปลอดภัย มาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมีแต่คุณประโยชน์ แต่รู้ไหมว่าวิตามินต่าง ๆ มีความลับซ่อนอยู่ที่หากคุณได้รู้จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและดีต่อร่างกายยิ่งขึ้นได้
วิตามินรวม และวิตามินชนิดต่าง ๆ กลายเป็นสิ่งคุ้นเคยสำหรับคนสมัยนี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้คนยุคนี้หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่า วิตามินที่เรากิน ๆ กันอยู่เป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายจริง ๆ หรือเปล่า? ดังนั้น ก่อนตัดสินใจกิน ผู้บริโภคก็ควรหาข้อมูลเพื่อจะได้เลือกรับประทานวิตามินรวมอย่างถูกต้องก่อนนั่นเองค่ะ
วิตามินบางชนิดจำเป็นต้องได้รับทุกวัน ได้แก่ วิตามินซีและบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ วิตามินกลุ่มนี้ไม่ถูกสะสมหรือกักเก็บในร่างกายได้นาน จะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะและเหงื่อ เราจึงต้องได้รับวิตามินกลุ่มนี้ทุกวัน และแม้ร่างกายจะได้รับวิตามินกลุ่มนี้มากเกินไป ส่วนเกินของวิตามินจะถูกขับออกโดยไม่ทำให้เกิดพิษหรือปัญหาต่อร่างกาย
วิตามินรวมคือ อาหารเสริมชนิดเม็ดประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินเค โพแทสเซียม ไอโอดีน ซีลีเนียม โบรอน ซิงค์ แมงกานีส โมลิบดีนัม เบต้า–แคโรทีน และธาตุเหล็ก
ในร้านขายยาชั้นนำ วิตามินรวมมีอยู่มากมายหลายชนิดและมีปริมาณในการรับประทานแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น วิตามินรวมสำหรับเด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงอายุ และอาจมีชนิดที่เพิ่มวิตามินและเกลือแร่บางอย่างเข้าไป สำหรับกลุ่มคนที่มีความต้องการแตกต่างกันไป
แม้ว่าเราจะเห็นตามแผ่นพับหรือโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ว่าวิตามินรวมดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่วิตามินรวมไม่ใช่ยามหัศจรรย์ที่จะช่วยเพิ่มพลังให้คุณกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ทันที สิ่งที่วิตามินรวมทำได้ ก็คือ ช่วยทดแทนวิตามินในส่วนที่ขาด หรือที่ไม่มีอยู่ในอาหาร
ยกตัวอย่างเช่น หากกินอาหารสำเร็จรูปบ่อย ๆ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่ร่างกายจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด ซึ่งวิตามินรวมจะช่วยทำหน้าที่ตรงนี้ในการเป็นตัวช่วยเสริมได้
รู้หรือไม่ว่า วิตามินรวมอาจจะไม่ได้ช่วยบำรุงสุขภาพอย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกัน เนื่องจากวิตามินรวมมีประโยชน์เฉพาะกับผู้คนบางกลุ่มเท่านั้น อย่างเช่น คนที่มักกินแต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คนที่มีปัญหาในเรื่องการย่อยอาหาร เช่น คนที่ได้รับการผ่าตัด เพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นโรคทางเดินอาหารอักเสบ และผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางอย่าง
หน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างสถาบันสุขภาพแห่งชาติในอเมริกา แนะนำให้ผู้หญิงที่อยากจะตั้งครรภ์รับประทานกรดโฟลิกขนาด 400 ไมโครกรัมทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรืออาหารเสริมก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความพิการตั้งแต่กำเนิดของทารก ดังนั้นผู้หญิงที่เตรียมตั้งครรภ์จึงควรปรึกษาแพทย์ ว่าควรเตรียมตัวกินวิตามินรวมอย่างไรบ้าง ควรรับประทานหรือไม่อย่างไร เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้
ช่วงเวลาสำหรับการรับประทานวิตามิน คือ ทานพร้อมอาหารและหลังอาหารเพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุด แต่ก็มีวิธีทานวิตามินให้ได้ผลดี คือ วิตามินบีรวมและวิตามินซี ควรรับประทานพร้อมอาหารเช้า กลางวัน เย็น เพื่อให้วิตามินอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งวัน ส่วนวิตามินเอ ดี อี เคที่ละลายได้ดีในไขมัน ควรทานพร้อมมื้ออาหารที่มีไขมัน และถ้าต้องทานวิตามินในมื้อเดียวให้เลือกมื้อที่ใหญ่ที่สุดของวัน หรือทานครึ่งหนึ่งหลังอาหารเช้า ครึ่งหนึ่งหลังอาหารเย็นก็ได้เช่นกัน
สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องกินวิตามินรวมเป็นอาหารเสริม ควรเลือกซื้อวิตามินรวมจากยี่ห้อที่ไว้ใจได้ เพื่อสามารถตรวจสอบได้ว่าวิตามินรวมขวดนั้นผลิตขึ้นตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา โดยนอกจากนี้ ควรระวัง น้ำตาลในวิตามินรวม แบบที่เป็นเยลลี่สำหรับเคี้ยว เนื่องจากวิตามินรวมชนิดนี้มักมีส่วนผสมของน้ำตาลสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ค่ะ
ท้ายที่สุด แม้วิตามินจะเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีบางชนิดที่ร่างกายต้องการในทุก ๆ วัน แต่ผู้บริโภคก็ควรศึกษาวิธีการรับประทานอย่างถูกต้องด้วยนะคะ เพื่อให้ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงนั่นเอง และต้องไม่ลืมว่าวิตามินดังกล่าวเป็นเพียงอาหารเสริมที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายขาดเท่านั้น ไม่สามารถรักษาภาวะโรคได้ ดังนั้น ไม่ควรเข้าใจผิด คิดว่าป่วยแล้วทานวิตามินก็สามารถหายได้นะคะ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิตามินบํารุงประสาทและสมอง ยี่ห้อไหนดี เลือกยังไงให้เหมาะกับตนเอง
