Haven't You Forgotten
Something?
Aenean vitae porta nisl, nec feugiat neque. Maecenas luctus magna eu elit dapibus, a porttitor lacus euismod.
[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]
[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]
กลูต้าผิวขาวเร่งด่วน อาหารเสริมผิวขาวที่ได้รับความนิยมมาอย่างช้านาน ซึ่งในปัจจุบัน ได้มีการรับผลิตกลูต้าไธโอนกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ กลูต้าไธโอน คือสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะผู้หญิง ในยุคปัจจุบันพากันหันมานิยมรับประทาน หรือฉีด กลูต้าไธโอน เพื่อผิวขาวกันเป็นอย่างมาก และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้อาหารเสริมชนิดนี้ได้รับการเลือกจากเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมมือใหม่หลาย ๆ คนที่อยากผลิตเพื่อออกจำหน่ายนั่นเอง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคต้องเลือกกลุต้าให้เป็นและต้องรู้วิธีกินที่ถูกต้องด้วย
สำหรับสาวๆ ที่มีรสนิยมหลงใหลในผิวขาว สว่างกระจ่างใส คงหนีไม่พ้นตัวช่วยอย่างกลูตาไธโอน ที่ทำให้นึกถึงกันเป็นอย่างแรก เสมือนว่า ผิวขาว = กลูตา หรือ กลูตา = ผิวขาว ก็ว่าได้ แต่คุณเองก็อาจจะไม่รู้ว่า กลูตาไธโอน มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราได้มากกว่านั้น
ซึ่งกลูตาไธโอน เริ่มเข้ามาให้สาวไทยได้รู้จักหลายปีแล้วค่ะ จนในปัจจุบันนวัตกรรมที่ดี สามารถทำให้เราได้รับสารอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ควบคู่ไปกับความสวยงามได้ด้วย แม้ยุคปัจจุบันทุกสีผิวจะมีความดูดี งดงามในตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็มีสาวๆ ที่มีรสนิยมความชอบในเรื่องผิวขาว ผิวอมชมพู กระจ่างใสกันอยู่มากในทุกยุคทุกสมัย กลูตาไธโอนจึงเป็นเรื่องแรกที่ยังได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง
กลูต้าไธโอน (Glutathione) เป็นสารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด คือ ไกลซีน (Glycine) แอลซิสเทอีน (L-Cysteine) และแอลกลูตาเมต (L-Glutamate) มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย จึงมีการศึกษาและทดลองใช้กลูต้าไธโอนในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคซิสติก ไฟโบรซิส
กลูต้าไธโอนเป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองจากตับและเซลล์ประสาทภายในระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้ยังมีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และผัก รวมทั้งอยู่ในรูปของยาฉีดและอาหารเสริม ซึ่งได้รับความนิยมเพราะเชื่อกันว่าช่วยให้ผิวขาวใสขึ้น
นอกจากกลูต้าไธโอนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เอง เราอาจได้รับกลูต้าไธโอนจากแหล่งอื่น ๆ ดังนี้
กลูต้าไธโอนประกอบด้วยโมเลกุลกำมะถัน อาหารที่มีกำมะถันจึงมีส่วนช่วยเพิ่มการผลิตกลูต้าไธโอนในร่างกาย เช่น เนื้อปลาและเนื้อไก่ไม่ติดมัน ไข่ ผลิตภัณฑ์นม บรอกโคลี ดอกกระหล่ำ กะหล่ำดาว ปวยเล้ง หอมใหญ่ กระเทียม ถั่วและธัญพืช
การรับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมบางชนิดอาจช่วยในการสร้างกลูต้าไธโอนของร่างกายได้ เช่น วิตามินซี วิตามินอี ซีลีเนียม และเคอร์คิวมิน (Curcumin) รวมถึงกลูต้าไธโอนยังถูกสกัดเป็นอาหารเสริมในรูปแบบเม็ดหรือผงละลายน้ำสำหรับรับประทาน แต่กลูต้าไธโอนรูปแบบนี้มักไม่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เนื่องจากจะถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารและกำจัดออกจากร่างกาย
นอกจากนี้ ยังมีกลูต้าไธโอนในชนิดสูดดมที่ใช้รักษาโรคปอด และชนิดฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อและหลอดเลือดดำ ซึ่งอาจนำไปใช้ในการลดผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดและดูแลผิวพรรณให้ขาวใส อย่างไรก็ตาม การฉีดยากลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้นมักเป็นผลที่เกิดขึ้นในระยะสั้น และอาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้งเพื่อคงประสิทธิภาพไว้
หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า กลูต้าฯ อาหารเสริมที่เรารู้จักกันนั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องความขาวแล้ว ยังมีหน้าที่และส่วนช่วยร่างกายในส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น…
กลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว
กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ
จับสารพิษที่ไม่ละลายน้ำและกำจัดออกทางไตหรือทางลำไส้ รวมทั้งกำจัดฝุ่นละอองและควันพิษที่ปอด
ผลิตขึ้นเองโดยทุกเซลล์ตามธรรมชาติ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยการไหลเวียนของระบบเลือด รักษาการทำงานของหัวใจ ช่วยชะลออายุของเซลล์ทุกเซลล์
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงหน้าที่ส่วนหนึ่งของกลูต้าฯ เท่านั้น ยังมีอักหลายคุณประโยชน์ที่กลูต้าฯ สามารถสร้างให้ร่างกายของเราได้ อย่างไรก็ดี ประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้บริโภครับประทานได้ถูกวิธีด้วย เพราะการรับประทานแบบผิด ๆ อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายมากกว่าที่คิด
การได้รับกลูต้าไธโอนจากการรับประทานอาหารมักไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่การได้รับกลูต้าไธโอนรูปแบบอาหารเสริมและยาฉีดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หายใจลำบาก เนื่องจากหลอดลมตีบ และอาการแพ้อย่างมีผื่นแดง ความดันโลหิตต่ำ และอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้
นอกจากนี้ การได้รับกลูต้าไธโอนต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ระดับสังกะสีในร่างกายลดลง และหากกลูต้าไธโอนสะสมในร่างกายในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การใช้กลูต้าไธโอนจึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือรับประทานตามคำแนะนำบนฉลากของอาหารเสริมอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันผลข้างเคียงดังกล่าวไปให้เกิดขึ้น
โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะมีวิธีกำจัดสารอนุมูลอิสระอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ เอนไซม์ Superoxide dismutase (SOD) ที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เอง และการเติมสารต้านอนุมูลอิสระจากภายนอกด้วยอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะการเพิ่มกลูต้าไธโอนด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่นอกจากจะต้องเลือกยี่ห้อกลูต้าไธโอนที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยแล้ว
การกินกลูต้าไธโอนให้ได้ประโยชน์และเห็นผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ยังต้องรู้จักกินในปริมาณที่เหมาะสม
อย่างน้อย 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และควรกินในตอนที่ท้องว่าง เช่น ตอนเช้า หรือก่อนนอน ทั้งยังถูกแนะนำให้กินคู่กับวิตามินซี (1000 มิลลิกรัม) เพื่อเสริมให้ร่างกายดูดซึมกลูต้าไธโอนได้ดีและมากขึ้น
ทั้งนี้ ต้องหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภทเพื่อความปลอดภัยด้วย เช่น เครื่องดื่มแอลกอร์ฮอล์, เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ และการเผชิญกับมลภาวะด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีการโฆษณาอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับกลูต้าไธโอน ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงพัน และมีการอวดอ้างสรรพคุณจนทำให้คนที่อยากขาว เกิดความสนใจ และซื้อมารับประทาน จนอาจทำให้เกิดอันตรายจากกลูต้าไธโอนที่ไม่ผ่านอย.และส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ ดังนั้น ก่อนซื้อหรือรับประทาน ผู้บริโภคควรทำการศึกษากลูต้าฯ หรืออาหารเสริมกลูต้าฯ ของแบรนด์นั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผลัพธ์ที่คาดหวังด้วย
เราคือบริษัท รับผลิตอาหารเสริม และ สร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง ครีม คุณภาพทุกชนิด อย่างครบวงจร รวมถึงควบคุมการผลิตโดยแพทย์ เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการตลาด เราสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเราพร้อมที่จะบริการให้คำปรึกษา ในด้านต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถ และ ประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตเครื่องสำอาง และ อาหารเสริมอย่างมืออาชีพค่ะ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยการการันตีต่าง ๆ เช่น
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังเชียวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่างๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
ท้ายที่สุด หลายๆ คนคงเห็นแล้วนะคะว่า กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ หรือ อาหารเสริม มาแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาเลือกทีมสร้างแบรนด์และโรงงานผลิตให้ดี เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็จะมีปัญหาตามมาได้เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ ในเรื่องของเวลาดำเนินการการผลิตจำเป็นต้องใช้เวลา อย่างต่ำคือประมาณ 12-16 สัปดาห์ (ซึ่งนับจากขั้นตอนสั่งซื้อวัตถุดิบ) เจ้าของแบรนด์สามารถใช้เวลากับสินค้าของตนเองได้เต็มที่ เพื่อให้สินค้าออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!
ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!
ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ