Haven't You Forgotten
Something?
Aenean vitae porta nisl, nec feugiat neque. Maecenas luctus magna eu elit dapibus, a porttitor lacus euismod.
[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]
[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]
กินกลูต้า ห้ามกินอะไรบ้าง? ข้อควรรู้ที่ผู้รับประทานกลูต้าฯ ต้องทำการศึกษาให้ละเอียด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ถ้าอยากผิวสวยมีออร่า “กลูต้าฯ”มักจะเป็นตัวเลือกระดับต้น ๆ ดั่งคำที่ว่าอยากผิวขาว นึกไม่ออกให้ไปทานกลูต้า เนื่องจากกลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้นเองได้ โดยร่างกายจะสร้างกลูต้าไธโอนขึ้นมาเพื่อจัดการกับสารอนุมูลอิสระ รวมถึงเมลาโทนิลที่ส่งผลให้ผิวคล้ำเสีย จึงทำให้กลูต้าไธโอนเป็นอาหารเสริมที่สามารถทำให้ผิวขาวขึ้น กระจ่างใสขึ้น และดูสุขภาพดียิ่งขึ้น ส่งผลให้คุณมีความมั่นใจ มีบุคลิกภาพที่ดูดี แต่อย่างไรก็ดี ในช่วงที่รับประทานนั้น สิ่งสำคัญที่ควรรู้นอกกจากการรับประทานที่ถูกต้องก็คือข้อห้ามในช่วงการทานกลูต้าฯ โดยเฉพาะเรื่องของกินที่ทุกคนอาจเผลอทานเข้าไปและส่งผลให้การทานกลูต้าฯ สูญเปล่าได้ นั่นเอง ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้ทำการศึกษาและนำไปปรับใช้ บทความนี้ Charmase Cosmed ได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้วค่ะ
กลูต้า หรือกลูตาไธโอน เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งเป็นที่นิยมมากในไทย เพราะคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวใสขึ้นได้ แต่หลาย ๆ คนกลับพบว่าตัวเองกินกลูต้าเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ดั่งใจเสียที แม้จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งนั่นก็อาจเป็นสาเหตุจากการที่ทานกลูต้าไม่ถูกวิธีนั่นเอง ในวันนี้เราจึงอยากจะแชร์วิธีทานกลูต้าที่ถูกต้องให้ทุกคนได้รู้กัน เพื่อผลลัพธ์ที่คาดหวังและความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วยนั่นเองค่ะ
กลูตาไธโอน หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่ากลูต้า (Gluta) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ ไกลซีน (Glycine) ซิสเทอีน (Cysteine) และกลูตามิก (Glutamic) โดยกลูตาถูกจัดให้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงที่สุด พบได้ทั่วทุกเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะที่สมอง ตับ ไต ปอดและม้าม โดยนอกจากจะช่วยให้ผิวพรรณของเราดูขาวเปล่งปลั่กระจ่างใสแล้ว กลูต้าก็ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ต่อร่างกายอีกมากมายมหาศาลด้วย
แม้จะมีภาพจำในการช่วยให้ผิวขาว แต่ทุกคนทราบหรือไม่คะว่า กลูต้านั้นมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…
กลูต้าไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่
ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้จากกลูต้าไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA
กลูต้ายังช่วยในการสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด
แต่ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็ต้องมาจากการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วย เพราะถ้าหากรับประทานมากเกินไปอาจเกิดผลเสียที่ร้ายแรงได้นั่นเอง
3 เมนูสำคัญที่ผู้รับประทานกลูต้าไธโอนควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจส่งผลต่อการเกิดผลลัพธ์ของการรับประทานได้ นั่นคือ…
ข้อห้ามสำหรับการทานกลูต้าไธโอน เพื่อไม่ให้ไปทำลายการทำงานของกลูต้า คือห้ามทานผลไม้ที่มีน้ำเยอะอย่าง แตงโม ฟัก แฟง รวมไปถึงอาหารหมักดอง
ข้อห้ามสำหรับการทานกลูต้าไธโอน ที่จะเข้าไปขัดขวางการดูดซึม ทำให้การละเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม รวมถึงการสูบบุหรี่ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมกลูต้าไปใช้ได้อย่างเต็มที่
เนื่องจากคาเฟอีนนั้นเป็นสารที่สามารถขับออกได้ทางปัสสาวะ ดังนั้น มันอาจเป็นตัวที่ทำให้กลูต้าฯ ถูกขับออกไปด้วยและทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ล่าช้า ทั้งนี้ยังทำให้ไปยับยั้งการสร้างกลูตาไธโอนภายในร่างกายอีกเช่นเดียวกัน
ซึ่ง 3 สิ่งนี้เป็นเพียงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเท่านั้น ยังมีข้อห้ามอื่น ๆ เช่น การโดนแสงแดด การสูบบุหรี่ ที่ควรหลีกเลี่ยงและควรลดเพื่อส่งเสริมให้การทำงานของการรับประทานกลูต้าไธโอนนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุดและเห็นผลได้ไวขึ้นค่ะ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกินกลูต้าไธโอน คือ ช่วงเวลาตอนท้องว่าง ซึ่งเวลาที่เหมาะสมมากที่สุด คือ ตอนก่อนนอน และตอนตื่นนอนใหม่ๆ หรือถ้าไม่สะดวกเวลานี้ ก็สามารถรับประทานก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที ซึ่งปริมาณการทาน กลูต้าของแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว เพราะ ถ้าเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างใหญ่ ก็จะมีเม็ดสีผิวที่มากกว่าสาวรูปร่างเล็ก ปริมาณการรับประทานกลูต้าจึงต้องมากกว่าคนรูปร่างเล็ก ส่วนขนาดที่รับประทานคือ 20-40 mg/kg/day
เพราะฉะนั้นเพื่อให้ผิว ขาวขึ้น เราควรที่จะกินกลูต้าไธโอนในปริมาณพอเหมาะ และที่สำคัญที่สุด คือ ควรคำนึงถึงอย.ว่าได้รับรองแล้วหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
ด้วยมาตรฐานที่เจ้าของแบรนด์สามารถไว้วางใจ การันตีด้วยผลงานและระบบความปลอดภัยที่เราให้ความใส่ใจ โดยปัจจุบันนี้มีธุรกิจหลายอย่างได้เกิดขึ้นอย่างมากมาย สำหรับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม หรือ การสร้างแบรนด์ครีม ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่าตลาดความสวยความงามนั้นสามารถสร้างรายได้ต่อปีจำนวนมหาศาล ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้เริ่มหันมาผลิตอาหารเสริม หรือ ผลิตครีมมากมาย เราจะเห็นได้จากดาราที่หันมาทำธุรกิจอาหารเสริม หรือ ธุรกิจครีมกันเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สร้างโรงงานผลิตเองแน่นอน ทุกวันนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะมีผู้รับผลิตซึ่งเป็นโรงงานรับผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานรองรับ
บริษัท ชาร์แมซ ซี.เค. คอสเมด จำกัด เรามีทีมนักวิทยาศาสตร์ ทีมนักวิจัย และเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังเชียวชาญระดับสูง ที่จะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็น แผนกวิจัยและพัฒนาฝ่ายอาหารเสริม แผนกวิจัยและพัฒนาสารสกัดสมุนไพร ตลอดจน ครีม เครื่องสำอาง ต่างๆ อีกทั้งทีมวิจัยและพัฒนาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทดสอบและพัฒนาสูตรอาหารเสริมให้มีคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ และปรับแต่งสูตรต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หลังจากผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาเรียบร้อย เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีม สบู่ ตลอดจนเครื่องสำอาง ทุกชนิด ด้วยการควบคุมคุณภาพภายใต้มาตรฐานการรับรองระดับโลก GMP HACCP HALAL ทั้งตรวจสอบความปลอดภัยของสารปนเปื้อนทุกชนิด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่าง 100%
ทุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ครีม สบู่ เครื่องสำอาง ทุกชิ้นของบริษัท ได้ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยทีมงานที่มีคุณภาพ รับรองคุณภาพและวิธีการผลิตตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด อีกทั้งยังควบคุมดูแล ทำความสะอาดเครื่องจักรในกระบวนการผลิตอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และผ่านการทดสอบจากห้องแลบมาตรฐานระดับสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความไว้วางใจ ในการนำผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาดไปสู่มือผู้บริโภค จากโรงงานของเรา
ท้ายที่สุด หลายๆ คนคงเห็นแล้วนะคะว่า กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ หรือ อาหารเสริม มาแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาเลือกทีมสร้างแบรนด์และโรงงานผลิตให้ดี เพราะหากมีขั้นตอนใดผิดพลาด ก็จะมีปัญหาตามมาได้เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งนี้ ในเรื่องของเวลาดำเนินการการผลิตจำเป็นต้องใช้เวลา อย่างต่ำคือประมาณ 12-16 สัปดาห์ (ซึ่งนับจากขั้นตอนสั่งซื้อวัตถุดิบ) เจ้าของแบรนด์สามารถใช้เวลากับสินค้าของตนเองได้เต็มที่ เพื่อให้สินค้าออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
สร้างจุดขายให้แบรนด์ กับ สารประกอบสุดฮิต ที่ตลาดต้องการ เพิ่มยอดขายหลายร้อยล้าน !!
ช่องทางการขายอาหารเสริม ขายยังไงให้ได้เงินล้าน !!
ลิปสติก ทำมาจากอะไร ? มาทำความรู้จัก สารสกัดในลิปสติก กันค่ะ