Haven't You Forgotten 
Something?

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Pellentesque eget tincidunt quam. Phasellus ultricies ultrices bibendum.

Aenean vitae porta nisl, nec feugiat neque. Maecenas luctus magna eu elit dapibus, a porttitor lacus euismod.

[products limit="2" columns="2" on_sale="true"]

คอลลาเจน คืออะไร ทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด?

คอลลาเจน เชื่อได้ว่าในปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าสารชนิดนี้ เนื่องจากเป็นสารที่มีความสำคัญต่อร่างกายเพราะให้คุณประโยชน์มากมายนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะมีภาพจำเกี่ยวกับคอลลาเจนที่ให้คุณประโยชน์ในเรื่องของความเต่งตึงของผิวเท่านั้น แต่ทุกคนทราบหรือไม่คะว่าแท้จริงแล้วคอลลาเจนนั้นให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากกว่านั้นเสียอีก แต่ถึงกระนั้นการที่จะได้รับประโยชน์จากมัน ผู้บริโภคก็ต้องรับประทานให้ถูกวิธีด้วย ดังนั้นในบทความนี้ Charmace จึงหยิบยกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคอลลาเจนมาฝาก พร้อมทั้งวิธีการทานที่ถูกต้องมาฝากผู้อ่านเพื่อนำไปปรับใช้กันค่ะ

คอลลาเจน คืออะไร ทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด?

คอลลาเจน คืออะไร มีกี่ชนิด และมีเทคนิคการทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เนื่องจากคุณสมบัติที่ได้รับจากคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผิว ผม เล็บ กระดูก ไขข้อดีขึ้น และมีการศึกษาหลายอย่างสนับสนุนว่าการกินคอลลาเจนติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มีแนวโน้มว่าจะช่วยเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกได้ ปัจจุบันจึงมีคำถามมากมาย เกี่ยวกับวิธีการรับประทานคอลลาเจนที่ถูกต้อง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคอลลาเจนรวมถึงวิธีกินที่ถูกต้องกันค่ะ

คอลลาเจน คืออะไร?

คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนรูปแบบหนึ่งที่ได้จากการรวมตัวกันของกรดอะมิโน พบได้ในกระดูก กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง
โดยปกติแล้ว ในช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่น ร่างกายจะมีการสร้างคอลลาเจนอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าผิวของเด็กจะเต่งตึง เรียบเนียน นุ่มลื่น แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง นี่คือสาเหตุของผิวเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอยได้ง่ายนั่นเอง แต่เราสามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ร่างกายได้ด้วยตัวเอง ด้วยการทานอาหารที่มีปริมาณคอลลาเจนสูงนั่นเองค่ะ

ชนิดของคอลลาเจน

คอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนประเภทหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบราวร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดของร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว กระดูกอ่อนและหลอดเลือด เป็นต้น ในปัจจุบันมีการค้นพบคอลลาเจนมากกว่า 18 ชนิด

แต่คอลลาเจนที่พบมากที่สุด 5 ชนิดได้แก่

คอลลาเจนประเภทที่ 1 (type I)

ซึ่งพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็นยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด มีความสำคัญในเรื่องของการเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้ดี

คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II)

พบมากในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง ทำหน้าที่แตกต่างจากคอลลาเจน type I อย่างสิ้นเชิง โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ

คอลลาเจนประเภทที่ 3 (type III)

มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย สามารถพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10 % โดยส่วนใหญ่มักพบในผนังหลอดเลือด แต่พบได้น้อยในข้อต่อต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากคอลลาเจนชนิดที่ 2

คอลลาเจนประเภทที่ 4 (type IV)

พบใน basal lamina และ basement membrane ในส่วนของ epithelium-secreted layer เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือดอีกด้วย

คอลลาเจนประเภทที่ 5 (type V)

เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม

การทานอาหารเสริมคอลลาเจนนั้นสำคัญอย่างไร

จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการเป็นสารตั้งต้นของส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเรา โดยทั่วไปแล้วร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นเองได้ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น อัตราการสังเคราะห์คอลลาเจนของเรากลับลดลง การมองหาตัวช่วยเสริมปริมาณคอลลาเจนจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวพรรณของเราเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น รวมถึงลดการเสื่อมของไขข้อเมื่อเราอายุมากขึ้น โดยปริมาณคอลลาเจนที่ควรรับประทานในแต่ละวันที่เหมาะสำหรับคนทั่วไป ที่ไม่เคยมีประวัติการแพ้อาหารทะเล หรือไม่เคยแพ้สารสกัดจากปลามาก่อน เนื่องจากคอลลาเจนบางชนิดสกัดจากปลาทะเล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย ได้ประกาศออกมาว่าไม่ควรรับประทานคอลลาเจนเกิน 10 กรัมต่อวัน แต่สำหรับการรับประทานในชีวิตปกติประจำวันแล้ว การบริโภคคอลลาเจนเพียง 2.5-5 กรัมต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเสริมสร้างผิวพรรณที่สวยงามและร่างกายที่แข็งแรง โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย

เทคนิคการทานคอลลาเจนให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

  • คอลลาเจนที่ทานเข้าไปจะย่อยเป็นกรดอะมิโนหน่วยย่อย ๆ ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้จะกลายเป็นสารตั้งต้นในการสร้างคอลลาเจนในผิว เคราตินใน กระดูก ฟัน หรือส่วนอื่น ๆ ดังนั้นหากอยากได้คอลลาเจนที่บำรุงตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่เจาะจงเฉพาะส่วนให้เลือกคอลลาเจนประเภท Hydrolyzed เช่น Hydrolyzed marine collagen เป็นต้น
  • หากต้องการบำรุงพิเศษในเรื่องคอลลาเจนในชั้นผิว เรื่องของริ้วรอย ความเรียบเนียน เรื่องน้ำหล่อเลี้ยงบริเวณไขข้อ กระดูกอ่อน ควรเลือกคอลลาเจนที่มีโครงสร้างที่เมื่อผ่านการย่อยแล้วจะได้โมเลกุลได หรือไตรเปป์ไทด์ หรือ ปัจจุบันมีคอลลาเจน ไทป์ทู(Type II) ที่มีการวิจัยว่าเกี่ยวพันกับการช่วยส่งเสริมกระดูกโดยตรง หากกินร่วมกันเพราะร่างกายจะนำไปสร้างคอลลาเจนได้รวดเร็ว และกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ให้ทำงานมากขึ้น
  • หากกังวลเรื่องขนาดของโมเลกุล อยากได้ขนาดเล็ก ๆ ดูดซึมง่าย ๆ ควรเลือกไม่เกิน 500 dalton เช่น Collagen Tripeptide เป็นต้น
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกินหรือรับประทานคอลลาเจน แนะนำเป็นช่วงหลังอาหารเพื่อดูดซึมไปพร้อมกับสารอาหารที่ร่างกายรับเข้าไป ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ทางเราจะแนะนำก็เลยเป็นการทานพร้อมอาหาร หรือ กินหลังมื้อเช้า/มื้อที่ใหญ่ที่สุดของวันค่ะ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลที่เกี่ยวกับคอลลาเจนเท่านั้นค่ะ ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ผู้บริโภคต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีก่อนรับประทาน เพราะหากทานในวิธีที่ผิดก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลการทานอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้บริโภคเองด้วยนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ศึกประชัน คอลลาเจนเม็ด vs คอลลาเจนผง ตัวไหนกินแล้วเป๊ะเว่อร์กว่ากัน !!

5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาหารเสริมมีอะไรบ้าง

อาหารเสริมผิวขาวตัวไหนดี เลือกยังไงให้ปลอดภัยและเหมาะกับเรา